ความรู้

5 วิธีทำความสะอาดบ้านให้ปลอดภัยจากฝุ่นและไวรัส

เมื่อโรคระบาดกลับมาอีกครั้ง ทำให้หลายคนกลัวการออกไปข้างนอกและเก็บตัวเองอยู่กับบ้านมากขึ้น ดังนั้นบ้านจึงกลายเป็นพื้นที่ที่เราทุกคนใช้เวลาอยู่มากที่สุด และควรที่จะเป็นสถานที่ที่สะอาดและปลอดภัยมากที่สุด อย่าลืมว่านอกจากเชื้อไวรัสจากโควิด-19 แล้ว ยังมีสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้สุขภาพของเราย่ำแย่ได้ ดังนั้นการดูแลบ้านทำความสะอาดบ้านในแต่ละจุดให้สะอาด ปลอดฝุ่น PM2.5 และปลอดเชื้ออย่างสม่ำเสมอ จะทำให้การอยู่อาศัยภายในบ้านปลอดภัยและอุ่นใจอย่างแน่นอน ด้วยวิธีการทำความสะอาดจุดต่างๆ ที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

การทำความสะอาดห้องนอน

บ้านปลอดภัยข้อแรกขอให้โฟกัสไปที่การดูแลทำความสะอาดภายในห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่ร่างกายต้องสัมผัสและคลุกคลีกับเครื่องใช้ในบ้านเป็นเวลานาน ๆ โดยเฉพาะผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม วิธีทำความสะอาดบ้านที่แสนง่ายและรวดเร็วคือ เพียงแค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือหากไม่มีเวลาก็สามารถหาผ้าคลุมเตียงมาคลุมไว้เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เกาะติดเครื่องนอนได้ง่าย ๆ แล้ว นอกจากเรื่องความสะอาดในห้องนอนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นก็คือเรื่องของความสบาย เพื่อให้เราสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ดีที่สุด

การทำความสะอาดห้องห้องนั่งเล่นและห้องครัว

ห้องนั่งเล่นเป็นห้องที่มักมีข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์หลายชนิด ควรทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดถูอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเก็บสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นเข้าตู้ที่มีบานปิดมิดชิด เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น และสำหรับห้องครัวที่มักจะมีคราบอาหารติดอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีและอาจส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นควรทำการเช็ดให้สะอาดทุกครั้งที่มีคราบเลอะ ทิ้งเศษอาหาร และขยะอย่างสม่ำเสมอ ภาชนะที่เก็บจาน ชาม และช้อนส้อมควรปิดให้มิดชิด ในข้อนี้อาจมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต้องรองรับสมาชิกในบ้านเกือบทุกช่วงเวลาระหว่างวัน จึงต้องหมั่นดูแลให้บ้านปลอดภัยจากเชื้อโรคและรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการสะสมของเชื้อโรคได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่นๆ ในบ้าน คงไม่ดีแน่หากปล่อยให้ห้องน้ำอับชื้น เพราะเท่ากับเป็นการเร่งให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอาจเริ่มจากการใช้ชักโครกแต่ละครั้ง เมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรปิดฝาชักโครกให้เรียบร้อยจึงค่อยกด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค หมั่นทำความสะอาดสายชำระ และควรทำให้พื้นห้องน้ำแห้งอยู่เสมอเพื่อลดความอับชื้น โดยจุดสำคัญที่ต้องสัมผัสภายหลังจากทำธุระหรือก่อนทำความสะอาดมืออย่างก๊อกน้ำ ซึ่งกลายเป็นจุดที่ทำให้เราต้องสัมผัสเชื้อโรคซ้ำแม้ว่าจะทำความสะอาดมือไปแล้ว การทำความสะอาดก๊อกน้ำจึงเป็นเรื่องที่ควรทำทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอหลังการใช้งาน

การทำความสะอาดจุดเล็ก ๆ ภายในบ้าน พื้นที่ที่ต้องสัมผัสเป็นประจำ

หากต้องการให้บ้านปลอดภัยจากทั้งฝุ่นและเชื้อไวรัสต่าง ๆ ไม่ควรละเลยการทำความสะอาด 2 จุดเล็ก ๆ ภายในบ้านที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจคาดไม่ถึง

ลูกบิดประตู – เนื่องจากลูกบิดประตูมักเป็นด่านหน้าของการสัมผัสก่อนจะเข้าสู่ภายในบ้าน ทำให้ลูกบิดประตูกลายเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงในการสะสมของเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

สวิตช์ไฟ – เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปไหนก็ยังได้รับการสัมผัสอยู่ทุกวัน โดยมีงานวิจัยจากประเทศอังกฤษเคยเผยแพร่ว่า สวิตช์ไฟเป็นจุดสะสมแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงมากถึง 217 ตัวต่อตารางนิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวิตช์ไฟในห้องน้ำที่มีเชื้อโรคอาศัยอยู่มากกว่าบริเวณอื่นเป็นเท่าตัว วิธีทำความสะอาดบ้านให้เร็วในจุดนี้คือฉีดแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาดจุดที่มักหลงลืม

ต้นไม้ – ต้นไม้เป็นจุดสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ตลอดเวลา และมักจะถูกมองข้ามเรื่องการทำความสะอาด เนื่องจากมีการรดน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การรดน้ำจะทำให้ฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคยิ่งกระจายตัว วิธีทำความสะอาดบ้านให้เร็ว สามารถทำได้โดยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาดใบไม้ หรือสามารถใช้ไดร์เป่าผมเป่าฝุ่นละอองออกก็ได้เช่นกัน

ถังขยะ – ถึงแม้จะมีการใช้ถุงขยะและมีการเปลี่ยนถุงขยะเป็นประจำทุกวัน ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากบริเวณถังขยะยังมีแบคทีเรียและกลิ่นเหม็นยังตกค้างสะสม สิ่งที่ควรทำคือการทำความสะอาดถังขยะทุกครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากนำถุงขยะไปทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดแบคทีเรีอตกค้างสะสมต่อไป

นอกจากดูแลพื้นที่ภายในให้บ้านปลอดภัยและสะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว หลังจากกลับถึงบ้านควรล้างมือทุกครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำความสะอาดร่างกาย เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และป้องกันคนในบ้านให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสมากที่สุด เพื่อให้ตัวคุณเองและคนในครอบครัวห่างไกลจากเชื้อโรค และมีสุขภาพดีทั้งกายและใจไปด้วยกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.lh.co.th/th/lh-living-concept/tips/how-to-keep-your-home-safe-from-dust-and-viruses